กองสวัสดิการสังคม

งานที่ทำ
1. การจัดระเบียบชุมชน องค์กรชุมชน ข้อมูลชุมชน
2. การสนับสนุนกิจกรรมการพัฒนาชุมชนขององค์กรชุมชน
3. การส่งเสริมอาชีพประชาชนในชุมชน
4. จัดทำโครงการแก้ไขปัญหาและพัฒนาชุมชนด้านต่าง ๆ
5. ประสานงานระหว่างชุมชนกับเทศบาล และหน่วยงานต่าง ๆ
6. การสงเคราะห์ช่วยเหลือประชาชนผู้ด้อยโอกาส
7. การจัดสวัสดิการเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ผู้พิการ ผู้ป่วยเอดส์และครอบครัว
8. การสงเคราะห์ช่วยเหลือเด็กและครอบครัวยากจน
9. การช่วยเหลือผู้ป่วยที่ยากจนไปรักษาพยาบาลต่อจังหวัด
10. ตรวจสอบรับรองสิทธิการรับการสงเคราะห์ต่าง ๆ
11. งานอื่น ๆ ที่ก่อให้เกิดประโยชน์กับประชาชนและชุมชน

หลักเกณฑ์การขอรับสิทธิเงินสงเคราะห์เพื่อการยังชีพ ผู้สูงอายุ ผู้พิการ ผู้ป่วยเอดส์ และบุตร (500 บาท/เดือน)

หลักเกณฑ์การขอรับสิทธิเงินสงเคราะห์เพื่อการยังชีพ ผู้สูงอายุ ผู้พิการ ผู้ป่วยเอดส์ และบุตร (500 บาท/เดือน)
1. ผู้สูงอายุ
 1.1 คุณสมบัติผู้สูงอายุ
  - มีภูมิลำเนาอยู่ในเขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราช
  - มีอายุ 60 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป และมีสัญชาติไทย
  - มีรายได้ไม่เพียงพอแก่การยังชีพ หรือถูกทอดทิ้ง หรือขาดผู้อุปการะเลี้ยงดู หรือไม่สามารถประกอบอาชีพเลี้ยงตนเองได้
 1.2 ขั้นตอนการขอรับสิทธิ
   1.2.1. ยื่นคำขอรับสิทธิตามแบบฟอร์มที่กองสวัสดิการสังคม
   1.2.2. ตรวจสอบรายชื่อผู้สูงอายุที่มีคุณสมบัติถูกต้องแล้วเสนอต่อที่ประชุม
ประชาคมท้องถิ่น เพื่อทำการพิจารณาจัดลำดับผู้มีสิทธิได้รับเงินสงเคราะห์
   1.2.3. นำรายชื่อผู้สูงอายุที่ผ่านการคัดเลือกมาจัดทำเป็นบัญชีผู้มีสิทธิได้รับเงินสงเคราะห์แล้วปิดประกาศไว้โดยเปิดเผย เป็นเวลาไม่น้อยกว่าสิบห้าวัน ณ สำนักงานเทศบาล หากไม่มีผู้คัดค้านจะนำเสนอนายกเทศมนตรี อนุมัติขึ้นบัญชีผู้มีสิทธิรับเงินเบี้ยยังชีพ
   1.2.4. หากมีผู้คัดค้านรายใดให้นายกเทศมนตรี แต่งตั้งกรรมการตรวจสอบเพื่อพิจารณาถอดถอนรายชื่อหรืออนุมัติ
 1.3 เอกสารประกอบในการขอรับสิทธิ
  - สำเนาทะเบียนบ้าน
  - สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน

2. ผู้พิการ
 2.1 คุณสมบัติผู้พิการ
  - มีภูมิลำเนาอยู่ในเขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราช
  - คนพิการที่จดทะเบียนคนพิการตามพระราชบัญญัติฟื้นฟูสมรรถภาพคนพิการ พ.ศ.2534
(มีสมุดคนพิการ)
  - มีรายได้ไม่เพียงพอแก่การยังชีพ หรือถูกทอดทิ้ง หรือขาดผู้อุปการะเลี้ยงดู หรือไม่ สามารถประกอบอาชีพเลี้ยงตนเองได้
 2.2 ขั้นตอนการขอรับสิทธิ
   2.2.1. ยื่นคำร้องขอรับสิทธิตามแบบฟอร์มที่กองสวัสดิการสังคม
   2.2.2. ตรวจสอบรายชื่อผู้พิการที่มีคุณสมบัติถูกต้องแล้วเสนอต่อที่ประชุมประชาคมท้องถิ่น
เพื่อทำการพิจารณาจัดลำดับผู้มีสิทธิได้รับเงินสงเคราะห์
   2.2.3. นำรายชื่อผู้พิการที่ผ่านการคัดเลือกมาจัดทำเป็นบัญชีผู้มีสิทธิได้รับเงินสงเคราะห์แล้ว
ปิดประกาศไว้โดยเปิดเผย เป็นเวลาไม่น้อยกว่าสิบห้าวัน ณ สำนักงานเทศบาล
หากไม่มีผู้คัดค้านจะนำเสนอนายกเทศมนตรี อนุมัติขึ้นบัญชีผู้มีสิทธิรับเงินเบี้ยยังชีพ
   2.2.4. หากมีผู้คัดค้านรายใดให้นายกเทศมนตรี แต่งตั้งกรรมการตรวจสอบเพื่อพิจารณาถอดถอนรายชื่อหรืออนุมัติ
 2.3 เอกสารประกอบในการขอรับสิทธิ
  - สำเนาทะเบียนบ้าน
  - สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
  - สำเนาสูติบัตร (กรณีเป็นเด็กและยังไม่มีบัตรประชาชน)
  - สำเนาสมุดคู่มือคนพิการ

3. ผู้ป่วยเอดส์
  3.1 คุณสมบัติผู้ป่วยเอดส์
   - มีภูมิลำเนาอยู่ในเขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราช
   - มีหนังสือรับรองแพทย์ที่แพทย์ทำการวินิจฉัยแล้วระบุเป็นผู้ป่วยเอดส์
   - มีรายได้ไม่เพียงพอแก่การยังชีพหรือถูกทอดทิ้ง หรือขาดผู้อุปการะเลี้ยงดูหรือไม่สามารถ ประกอบอาชีพเลี้ยงตนเองได้
 3.2 ขั้นตอนการขอรับสิทธิ
   3.2.1. ยื่นคำขอรับสิทธิตามแบบฟอร์มที่กองสวัสดิการสังคม
   3.2.2. ตรวจสอบผู้ป่วยเอดส์ที่มีคุณสมบัติถูกต้องเพื่อเสนอผู้บริหารท้องถิ่นอนุมัติให้เป็น ผู้ได้รับสิทธิ
   3.2.3. ดำเนินการช่วยเหลือ
  3.3 เอกสารประกอบในการขอรับสิทธิ
   - สำเนาทะเบียนบ้าน
   - สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
   - หนังสือรับรองแพทย์ที่ระบุว่าเป็นผู้ป่วยเอดส์

4. บุตรผู้ป่วยเอดส์
 4.1 คุณสมบัติบุตรผู้ป่วยเอดส์
  - อาศัยอยู่ในเขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราช และมีชื่อปรากฏในทะเบียนบ้าน ไม่น้อยกว่า 6 เดือน
  - บุตรผู้ป่วยเอดส์ (ที่มีหนังสือรับรองแพทย์) อายุไม่เกิน 15 ปี
  - มีรายได้ไม่เพียงพอแก่การยังชีพหรือถูกทอดทิ้งหรือขาดผู้อุปการะเลี้ยงดูหรือไม่สามารถ
ประกอบอาชีพเลี้ยงตนเองได้
 4.2 ขั้นตอนการขอรับสิทธิ
  1. ยื่นคำร้องขอรับสิทธิตามแบบฟอร์มที่กองสวัสดิการสังคม
  2. ตรวจสอบผู้ป่วยเอดส์ที่มีคุณสมบัติถูกต้องเพื่อเสนอผู้บริหารท้องถิ่นอนุมัติให้เป็น ผู้ได้รับสิทธิ
  3. ดำเนินการช่วยเหลือ
 4.3 เอกสารประกอบในการขอรับสิทธิ
   - สำเนาทะเบียนบ้าน
   - สำเนาสูติบัตร
   - หนังสือรับรองแพทย์หรือมรณบัตร (กรณีบิดา/มารดาเสียชีวิต) ที่ระบุว่ามารดาหรือ
บิดาเป็นโรคเอดส์ หลักเกณฑ์การช่วยเหลือค่าเดินทาง/เฝ้าไข้ผู้ป่วย ไปรักษาพยาบาลโรงพยาบาลต่างจังหวัด

คุณสมบัติของผู้มีสิทธิ
1. ผู้ป่วยต้องอาศัยอยู่จริงและมีชื่อในทะเบียนบ้านในเขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราช
ไม่ต่ำกว่า 6 เดือน นับถึงวันยื่นขอรับการช่วยเหลือ
2. ผู้ป่วยต้องมีบัตรโครงการสุขภาพดีถ้วนหน้า 30 บาท รักษาทุกโรค (บัตรทอง)
หรือบัตรประกันสังคม
3. ผู้ป่วยมีสิทธิที่จะให้พ่อ แม่ สามี ภรรยา บุตร หรือญาติที่ใกล้ชิดหรือผู้อุปการะ
เฝ้าผู้ป่วยได้ 1 คน
4. มีหนังสือนำส่งผู้ป่วยโดยโรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช ไปยังโรงพยาบาลต่างจังหวัด
5. ผู้ที่ยื่นคำขอความช่วยเหลือสงเคราะห์ด้านการรักษายาบาล ต้องเป็นพ่อ แม่ สามี
ภรรยา บุตร หรือญาติที่ใกล้ชิด หรือผู้อุปการะ
6. ให้กองสวัสดิการสังคม ตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้น เพื่อนำเสนอคณะกรรมการพิจารณา
ขั้นตอนการยื่นคำขอ
1. ให้พ่อ แม่ สามี ภรรยา บุตร หรือญาติผู้ใกล้ชิด หรือผู้อุปการะยื่นคำขอที่กองสวัสดิการสังคม ตามแบบฟอร์มที่กำหนด
2. ให้กองสวัสดิการสังคมเป็นผู้ตรวจสอบหลักเกณฑ์และคุณสมบัติการช่วยเหลือในเบื้องต้น ให้ตรงตามข้อ 3
3. คณะกรรมการพิจารณาช่วยเหลือตามหลักเกณฑ์
เอกสารที่ใช้ประกอบการยื่น
1. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนผู้ป่วย
2. สำเนาทะเบียนบ้านของผู้ป่วย
3. สำเนาบัตรประกันสุขภาพถ้วนหน้า
4. หนังสือส่งตัวโรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช
5. ใบนัดผู้ป่วย (ถ้ามี)
สิทธิที่จะได้รับการช่วยเหลือ
เทศบาลจ่ายเงินให้กับผู้ยื่นคำขอ พ่อ แม่ สามี ภรรยา บุตร หรือญาติผู้ใกล้ชิด หรือผู้อุปการะคนละไม่เกิน 3 ครั้งต่อผู้ป่วย 1 ราย
(1) เทศบาลจ่ายเงินให้กับผู้ยื่นคำขอ พ่อ แม่ สามี ภรรยา บุตร หรือญาติผู้ใกล้ชิด หรือ
ผู้อุปการะตามที่คณะกรรมการพิจารณา เป็นค่าเดินทางและค่าเฝ้าไข้ผู้ป่วย ครั้งหนึ่งไม่เกิน 5,000 บาท
(2) เทศบาลจ่ายเงินครั้งที่ 2 และครั้งที่ 3 แต่ต้องมีระยะห่างไม่น้อยกว่า 10 วันนับแต่วันจ่ายเงินครั้งแรกหรือครั้งที่ 2 แต่ไม่เกินครั้งละ 5,000 บาท